• หน้าแรก
  • อุปมาแก่นไม้กับแก่นธรรม
  • พระพุทธรูปยุคต่างๆ
  • เสียงธรรมคีตะ
  • สมุดเยี่ยม
  • ติดต่อเรา
ทำบุญตักบาตร รักษาศีล ฟังเทศน์ฟังธรรม ทุกวัน
แก่นพรหมจรรย์
           ดูกรภิกษุทั้งหลาย กุลบุตรบางคนในโลกนี้ มีศรัทธา  ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตด้วยคิดว่า
เราเป็นผู้อันชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์โทมนัส  อุปายาส ท่วมทับแล้วถูกความทุกข ท่วมทับแล้ว                  มีความทุกข์เป็นเบื้องหน้า ไฉนหนอความกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้  จะพึงปรากฏ.
           เขาบวชอย่างนั้นแล้วยังลาภสักการะและความสรรเสริญให้เกิดขึ้น. เขาไม่มีความยินดี มีความดำริยังไม่เต็ม
เปี่ยมด้วยลาภสักการะและความสรรเสริญนั้น  เขาไม่ยกตน ไม่ข่มผู้อื่นเพราะลาภสักการะและความสรรเสริญอันนั้น
เขาย่อมไม่มัวเมา ไม่ถึงความประมาทเพราะลาภสักการะและความสรรเสริญนั้น เมื่อเป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว ย่อมยัง
ความถึงพร้อมแห่งศีลให้สำเร็จเขามความยินดีด้วยความถึงพร้อมแห่งศีลนั้นแต่  มีความดำริยังไม่เต็มเปี่ยมเขาไม่
ยกตนไม่ข่มผู้อื่น เพราะความถึงพร้อมแห่งศีลอันนั้น.  เขาย่อมไม่มัวเมา ไม่ถึงความประมาทเพราะความถึงพร้อม
แห่งศีลนั้น เมื่อเป็นผู้ไม่ประมาทแล้วย่อมยังความถึงพร้อมแห่งสมาธิให้สำเร็จ  เขามีความยินดีด้วยความถึงพร้อม
แห่งสมาธินั้น แต่มีความดำริยังไม่เต็มเปี่ยม. เขาไม่ยกตน  ไม่ข่มผู้อื่น  เพราะความถึงพร้อมแห่งสมาธิอันนั้น  
          เขาย่อมไม่มัวเมาไม่ถึงความประมาทเพราะความถึงพร้อมแห่งสมาธินั้น  เมื่อเป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว  
ย่อมยังญาณทัสสนะให้สำเร็จ. เขามีความยินดีด้วยญาณทัสสนะนั้น แต่มีความดำริยังไม่เต็มเปี่ยม.เขาไม่ยกตน ไม่ข่มผู้อื่น เพราะญาณทัสสนะนั้น.เขาย่อมไม่มัวเมาไม่ถึงความประมาทเพราะญาณทัสสนะนั้นเมื่อเป็นผู้ไม่ประมาท
แล้วย่อมยังสมยวิโมกขให้สำเร็จ.ดูกรภิกษุทั้งหลายข้อที่ภิกษุนั้นจะพึงเสื่อมจากสมยวิมุตินั้นเป็นฐานะที่จะมีได้.
 
            ดูกรภิกษทั้งหลายเปรียบเหมือนบุรุษผู้มีความต้องการแก่นไม้ แสวงหาแก่นไม่เที่ยวเสาะหาแก่นไม้อยู่เมื่อ
ต้นไม้ใหญ่มีแก่นตั้งอยู่ ถากเอาแก่นถือไป รู้จักว่าแก่น.บุรุษผู้มีจักษุเห็นเขาผู้นั้นแล้วพึงกล่าวอย่างนี้ว่า บุรุษผู้เจริญนี้ รู้จักแก่น รู้จักกระพี้ รู้จักเปลือก  รู้จักสะเก็ด  รู้จักกิ่งและใบ จริงอย่างนั้น บุรุษผู้เจริญนี้  มีความต้องการแก่นไม้  
แสวงหาแก่นไม้  เที่ยวเสาะหาแก่นไม้อยู่  เมื่อต้นไม้ใหญ่มีแก่นตั้งอยู่ถากเอาแก่นถือไปรู้จักว่าแก่นและกิจที่จะพึง
ทำด้วยไม้แก่นของเขาจักสำเร็จประโยชน์แก่เขา ฉันใด                                                                            กุลบุตรบางคนในโลกนี้  ก็ฉันนั้นเหมือนกันมีศรัทธาออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตด้วยคิดว่า เราเป็น
ผู้อันชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์  โทมนัส อุปายาส ท่วมทับแล้ว ถูกความทุกข์ท่วมทับแล้ว มีความทุกข์เป็น
เบื้องหน้า ไฉนหนอความกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ จะพึงปรากฏ.
         เขาบวชอย่างนี้แล้วยังลาภสักการะและความสรรเสริญให้บังเกิดขึ้น.เขาไม่มีความยินดี มีความดำริยังไม่เต็ม
เปี่ยม ด้วยลาภสักการะและความสรร เสริญนั้น เขาไม่ยกตนไม่ข่มผู้อื่น เพราะลาภสักการะและความสรรเสริญอันนั้น. เขาย่อมไม่มัวเมาไม่ถึงความประมาทเพราะลาภสักการะและความสรรเสริญนั้น เมื่อเป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว ย่อมยัง
ความถึงพร้อมแห่งศีลให้สำเร็จ.
 
           เขามีความยินดีด้วยความถึงพร้อมแห่งศีลนั้น แต่มีความดำริยังไม่เต็มเปี่ยม. เขาไม่ยกตน  ไม่ข่มผู้อื่น
เพราะความถึงพร้อมแห่งศีลอันนั้น.  เขาย่อมไม่มัวเมา  ไม่ถึงความประมาท เพราะความถึงพร้อมแห่งศีลนั้นเมื่อ
เป็นผู้ไม่ประมาทแล้ว ย่อมยังความถึงพร้อมแห่งสมาธิให้สำเร็จเขามีความยินดีด้วยความถึงพร้อมแห่งสมาธินั้น แต่มีความดำริยังไม่เต็มเปี่ยม. เขาไม่ยกตน  ไม่ข่มผู้อื่นเพราะความถึงพร้อมแห่งสมาธิอันนั้น. เขาย่อมไม่มัวเมา   ไม่ถึงความประมาทเพราะความถึงพร้อมแห่งสมาธินั้น เมื่อเป็นผู้ไม่ประมาทแล้วย่อมยังญาณทัสสนะให้สำเร็จเขามี
ความยินดีด้วยญาณทัสสนะนั้น แต่มีความดำริยังไม่เต็มเปี่ยม. เขาไม่ยกตน ไม่ข่มผู้อื่น เพราะญาณ
ทัสสนะนั้น เขาย่อมไม่มัวเมา ไม่ถึงความประมาท เพราะญาณทัสสนะนั้น เมื่อเป็นู้ไม่ประมาทแล้วย่อมยังสมยวิโมกข์
ให้สำเร็จ. ดูกรภิกษุทั้งหลายข้อที่ภิกษุนั้นจะพึงเสื่อมจากสมยวิมุตินั้นมิใช่ฐานะมิใช่โอกาสที่จะมีได้.